
Times Higher Education (THE) สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกชื่อดังจากประเทศอังกฤษ เผยแพร่ผลการจัดอันดับ THE Asia University Rankings 2025 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ซึ่งในปีนี้มีมหาวิทยาลัยไทยเข้าร่วมการจัดอันดับทั้งหมด 20 มหาวิทยาลัย จากทั้งหมด 27 แห่งที่ส่งข้อมูล สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับ ประกอบด้วย 5 ตัวชี้วัดหลักและ 17 ตัวชี้วัดย่อย ซึ่งตัวชี้วัดหลัก ได้แก่ ด้านคุณภาพการวิจัย (Research Quality) 30% ด้านสภาพแวดล้อมการวิจัย (Research Environment) 28% ด้านการสอน (Teaching) 24.5% ด้านรายได้จากภาคอุตสาหกรรม (Industry) 10% และด้านความเป็นนานาชาติ (International Outlook) 7.5%
ผลการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยพะเยา รั้งอันดับ 601+ ของเอเชีย และเป็นอันดับที่ 13 ของประเทศไทย ร่วมกับอีก 7 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยการจัดอันดับ THE Asia University Rankings 2025 ในปีนี้ มหาวิทยาลัยพะเยา มีผลคะแนนที่เป็นตัวชี้วัด 5 ด้าน ดังนี้
ด้าน Research Environment ได้คะแนนร้อยละ 12.2
ด้าน Teaching ได้คะแนนร้อยละ 17.8
ด้าน Research Quality ได้คะแนนร้อยละ 34
ด้าน Industry ได้คะแนนร้อยละ 18.2
ด้าน International Outlook ได้คะแนนร้อยละ 23.2
ผลคะแนนตามรายตัวชี้วัดของมหาวิทยาลัยพะเยาในการจัดอันดับ THE Asia University Rankings 2025 มีการพัฒนาขึ้นในตัวชี้วัด ด้านสภาพแวดล้อมการวิจัย (Research Environment) โดยมหาวิทยาลัยมีการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยมากขึ้น ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ มีการผลิตงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติเพิ่มขึ้น การได้รับทุนวิจัยจากแหล่งต่างๆ มีความหลากหลายมากขึ้น และด้านการสอน (Teaching) มีการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนผ่านการพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัย การใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงบูรณาการ และการพัฒนาศักยภาพของอาจารย์อย่างต่อเนื่องซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าในหลายมิติของสถาบัน
มหาวิทยาลัยพะเยาได้กำหนดบทบาทของตนเองให้อยู่ในกลุ่ม 3 เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น มีเป้าหมายที่มุ่งเป็นสถาบันการศึกษาขั้นสูงที่พร้อมด้วยบุคลากรที่มีศักยภาพ พร้อมกับผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ และสร้างงานวิจัยเป็นรากฐาน สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ นำไปใช้ประโยชน์ต่อชุมชน สังคม สู่การเติบโตของสังคมอย่างยั่งยืน