ในวาระครบรอบ 16 ปี ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยพะเยา กับบทบาทการเป็นมหาวิทยาลัยกลุ่มที่ 3 กลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น จากฐานการทำงานภายใต้โครงการ 1 คณะ 1 โมเดล ตั้งแต่ปี 2554 สะท้อนให้เห็นการร่วมมือกับเครือข่ายชุมชน องค์กรต่าง ๆ และผู้ประกอบการทั่วทั้งจังหวัดพะเยา จนเกิดเป็นโมเดลความสำเร็จที่ยั่งยืนในแต่ละพื้นที่
ซึ่งในวันอังคารที่ 23 กันยายน 2568 นำโดย รศ.ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดี พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทนจากทุกส่วนงาน ประกอบไปด้วย อธิการบดี รองอธิการบดี คณบดีและผู้แทนทุกส่วนงาน ผู้ช่วยอธิการบดี ผู้อำนวยการกองศูนย์ต่าง ๆ ร่วมติดตามเยี่ยมชมโมเดลความสำเร็จ (Success Case) ด้านวิจัยและบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยพะเยา พื้นที่อำเภอจุน และอำเภอเชียงเชียงคำ จังหวัดพะเยา ดังนี้
กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าพิมพ์รักษ์โลก “ฮักขิงแกง” ซึ่งเป็นกลุ่มวิสากิจชุมชนที่ต่อยอดจากโครงการ U2T และโครงการ 1 คณะ 1 ชุมชนนวัตกรรม จนเกิดเป็นโมเดลความสำเร็จที่เป็นพื้นที่การเรียนรู้ต้นแบบ สามารถขยายเครือข่ายและพัฒนาจนสามารถเข้าสู่การแข่งขันในตลาดต่างประเทศ
กลุ่มชุมชนวัฒนธรรมไทลื้อ “กาดกองน้อย บ้านธาตุ ซอย 6” พื้นที่ต้นแบบความสำเร็จในการอนุรักษ์ฐานทุนทางวัฒนธรรมพลิกฟื้นพื้นที่ให้เกิดเป็นตลาดที่มีชีวิต สามารถสื่อสารและสืบทอดวัฒนธรรมไทลื้อได้อย่างโดดเด่น
พื้นที่ “ไร่ชุนโดเกษตรอินทรีย์” ตำบลฝายกวาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งต้นแบบพื้นที่เรียนรู้ ที่มีความโดดเด่นในการถ่ายทอดนวัตกรรมการเลี้ยงผึ้งโพรงจังหวัดพะเยา โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยพะเยาอย่างต่อเนื่อง
ในโอกาสนี้ ศ.ดร.เสมอ ถาน้อย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ได้นำเสนอภาพรวมการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในพื้นที่อำเภอเชียงคำตลอด 16 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งแนวคิดในการขยายผลสู่ความยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณทิพยาภา จิรทิปต์กุล (เจ้าของโรงแรมเดอวันดี) ในฐานะผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนาอำเภอเชียงคำให้ยั่งยืนเป็นรูปธรรม
รศ.ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา กล่าวว่า การพัฒนาเชิงพื้นที่ให้ยั่งยืนนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยมีมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางขององค์ความรู้ และเป็นตัวเชื่อมประสานให้เกิดการพัฒนาแบบองค์รวม (องคาพยพ) เพื่อบรรลุปณิธานของมหาวิทยาลัยที่ว่า “ปัญญาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน” ต่อไป