เบื้องหลังเหรียญเงินนานาชาติของ “DeSUP Ensemble” : มหาวิทยาลัยพะเยา

เบื้องหลังเหรียญเงินนานาชาติของ “DeSUP Ensemble”

วงดนตรีตะวันตกโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา “DeSUP Ensemble” กลับมาพร้อมกับเหรียญเงินจากเวที The 6th North Eastern Winds International Festival 2025 (NEW Fest 2025) การประกวดวงโยธวาทิตระดับนานาชาติ ครั้งที่ 6 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

การประกวดครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 โดยมุ่งเน้นความเป็นเทศกาลของการแสดงดนตรีมากกว่าการแข่งขัน มีวงเข้าร่วมประกวดมากกว่า 70 วงจาก 3 ประเทศ แบ่งออกเป็นหลายประเภท ทั้ง Championship Division ที่เน้นวัดความสามารถและแบ่งเป็นระดับเหรียญทอง เงิน ทองแดง และระดับเข้าร่วมการประกวด และ Premier Division ที่เน้นการแข่งขันเพื่อจัดลำดับและชิงถ้วยประราชทานฯ

วง “DeSUP Ensemble” ส่งทีม 18 คนเข้าประกวดในประเภท Small Winds Band รุ่น Championship Division โดยมี อาจารย์ชลวิทย์ บุญจันทร์ เป็นวาทยกรและผู้ฝึกซ้อม พร้อมด้วย อาจารย์อธิพงศ์ สัทธรรมนุวงศ์ และอาจารย์ทักษอร จอมมานพ เป็นผู้ควบคุมดูแลนักเรียน นำเสนอผลงาน 2 เพลง คือ “Lanna Suite no.6 เสเลเมา” ซึ่งถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่โดย ผศ.อดิวัชร พนาพงศ์ไพศาล ซึ่งเป็นเพลงที่ผสมผสานความแข็งแรงของจังหวะมาร์ชกับความอ้อนช้อยของทำนองเพลงพื้นเมืองเหนือ และ “Flower Crown” ประพันธ์โดย Naoya Wada นักประพันธ์เพลงชาวญี่ปุ่น ที่มีทั้งความอ่อนหวานไพเราะและความมีชีวิตชีวา

จุดเริ่มต้นที่ท้าทาย

เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นของการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ อาจารย์ชลวิทย์ บุญจันทร์ วาทยกรและผู้ฝึกสอน เล่าว่า

เริ่มจากการประชุมร่วมกับกลุ่มบริหารของนักเรียนภายในวง ช่วงเดือนพฤษภาคมก่อนเปิดเทอมว่า ปีนี้จะมีเป้าหมายในการพัฒนาสมาชิกภายในวงอย่างไร เพื่อเป็นทิศทางในการวางแผนการฝึกซ้อมตลอดทั้งปีการศึกษา

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือ การส่งวงเข้าร่วมประกวด เพื่อเป็นการกระตุ้นและเพิ่มเป้าหมายของการพัฒนาวงมากกว่าปีที่ผ่านมา จากการศึกษารายละเอียดและกติกาจากการประกวดปีที่แล้ว ทำให้เห็นว่าวงมีศักยภาพเพียงพอ ที่จะเข้าร่วมประกวดรายการ NEW Fest จึงอยู่ในเป้าหมายหลักในการเข้าร่วมประกวดในปีนี้

แต่แล้วความท้าทายก็เกิดขึ้น เมื่อกติกาและประเภทการประกวดมีการเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนสมาชิก เพื่อให้สัมพันธ์กับกติกาใหม่ ทางวงจึงวางแผนใช้สมาชิกชุดเดิมที่เคยประกวดไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมเป็นแกนหลัก แล้วให้พวกเขาช่วยกันสอนสมาชิกใหม่ภายใต้กลุ่มเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัด ให้มีทักษะใกล้เคียงกันให้มากที่สุด ก่อนที่ครูผู้สอนจะนำทุกกลุ่มมาบรรเลงร่วมกันเป็นวงอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ใช้เวลาซ้อมประมาณ 6 สัปดาห์

อาจารย์ชลวิทย์ตั้งเป้าหมายไว้ว่า

หลังจากตัดสินใจเข้าประกวดแล้วถ้าวงเรายังรักษาระดับความสามารถเหรียญเงินได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ และผลก็เป็นไปตามเป้าหมาย

อุปสรรคที่ต้องฝ่าฟัน

เมื่อถามถึงความท้าทายระหว่างการแข่งขัน อาจารย์ชลวิทย์บอกว่า

การรวมกลุ่มนักเรียนที่มีทักษะที่แตกต่างกันหลายระดับ ทำให้การซ้อมค่อนข้างลำบาก ต้องปรับจูนทุกคนให้บรรเลงในทักษะที่ใกล้เคียงกัน ระดับกลุ่มเครื่องก่อน แล้วจึงนำทุกกลุ่มมาปรับจูนรวมกันเป็นวงให้บรรเลงเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ซึ่งค่อนข้างยากพอสมควร

นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ของนักเรียนที่ถือว่าน้อยมาก

มีครึ่งหนึ่งของวงที่การประกวดนี้ เป็นการประกวดครั้งแรก ทำให้กว่าจะทำให้สามารถบรรเลงในการประกวดได้ ถือว่ายากพอสมควร แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งต้องชื่นชมนักเรียนทุกคน ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

เสียงจากนักเรียนบนเวที

เด็กหญิงชนกภัท ปิติฐาโชติ นักเรียนตำแหน่งเปอร์คัสชั่น เล่าความรู้สึกตอนแรกให้เราฟังว่า

รู้สึกตื่นเต้นและกังวลมาก ว่าเราจะทำออกมาได้ดีตามที่ตั้งไว้รึเปล่า

ช่วงซ้อมก็มีความท้าทายไม่น้อย

มีอุปสรรคหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการสอนน้องในพาร์ทให้เล่นได้ อีกทั้งยังต้องซ้อมของตัวเองอีกด้วย และยังต้องฟังคนอื่นด้วยตลอดเวลา ต้องมีสมาธิอยู่ตลอด แล้วก็ได้ซ้อมเกือบจะทุกวัน ทำให้เหนื่อยและล้ามาก

บนเวทีก็มีโมเมนต์ที่จำไม่ลืมเช่นกัน

ตอนที่กรรมการ comment แล้วตอนเล่นก็มีเล่นผิดบ้าง ทำให้จำว่าตรงไหนควรไปฝึกซ้อมและแก้ไขเพื่อให้ครั้งถัดไปสามารถเล่นได้ดีขึ้น

เมื่อถามว่าการได้รางวัลครั้งนี้ให้อะไรกับตัวเองบ้าง น้องชนกภัทตอบว่า

ให้ความภูมิใจ ประสบการณ์จากข้อผิดพลาด และการดูการแข่งขันของวงอื่นเพื่อเอาไปพัฒนาตัวเองและสมาชิกในวงต่อ

มุมมองของครูผู้ฝึกสอน

สิ่งที่อาจารย์ชลวิทย์ประทับใจที่สุดระหว่างการฝึกซ้อมไม่ใช่การได้รางวัล แต่เป็น

การได้เห็นรุ่นพี่ที่เป็นแกนนำพยายามพัฒนากลุ่มของตัวเอง ให้สามารถบรรเลงได้อย่างมีมาตรฐานก่อนที่จะมารวมทั้งวง การได้เห็นนักเรียนได้พยายามซ้อมในส่วนของตัวเอง จนสามารถไปบรรเลงที่เวทีประกวด ทุกคนได้เล่นดนตรีด้วยกัน ทุกคนได้แสดงศักยภาพของตัวเองให้ผู้คนภายนอกได้รับชม ซึ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ มากกว่ารางวัลที่ได้รับเสียอีก

เมื่อเราถามถึงความรู้สึกตอนที่วงได้รับรางวัล อาจารย์ชลวิทย์บอกว่า

เรื่องรางวัลเป็นเพียงแค่โบนัสที่ทุกคนได้รับ แต่รางวัลสำคัญที่สุดคือทุกคนได้บรรเลงดนตรีร่วมกัน ณ เวทีแห่งนี้

บทเรียนและข้อคิด

ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทเรียนสำคัญหลายประการ ทั้งจากมุมมองของครูและนักเรียน

อาจารย์ชลวิทย์มองว่า

ทุกคนมีศักยภาพ ทุกคนมีพื้นที่ที่เป็นของตัวเอง ถ้าทุกคนเชื่อมั่น ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้

นี่คือความเชื่อที่ทำให้การฝึกซ้อมในช่วง 6 สัปดาห์ที่มีความท้าทาย สามารถนำพาทีมที่มีทักษะแตกต่างกันไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ

สำหรับชนกภัท เธอมีข้อความถึงรุ่นน้องที่สนใจทางดนตรีว่า

ดนตรีจะสอนให้มีวินัย การเป็นทีมเวิร์ก การจัดการหลาย ๆ อย่าง ไม่ใช่แค่การเล่นดนตรีอย่างเดียว แต่เราจะได้รับประสบการณ์การทำงาน เพื่อไปต่อยอดในอนาคต และดนตรีก็ไม่ใช่แค่การแข่งขันอย่างเดียว แต่เราก็รู้จักการให้ความเคารพคนอื่นด้วย อย่ากลัวที่จะผิดพลาด เพราะทุกคนสามารถพัฒนาและต่อยอดไปได้อีกไกล

จากการฝึกซ้อมเพียง 6 สัปดาห์ นักเรียนได้เรียนรู้มากกว่าการบรรเลงดนตรี พวกเขาได้เรียนรู้การเป็นผู้นำที่ช่วยสอนน้อง ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม การฟังและประสานกัน การรับมือกับความกดดันที่เกิดขึ้น และที่สำคัญคือการยอมรับข้อผิดพลาดและนำข้อผิดพลาดนั้นมาพัฒนาต่อยอด เหรียญเงินจาก The 6th North Eastern Winds International Festival 2025 อาจเป็นรางวัลที่จับต้องได้ แต่บทเรียนที่ได้จากการฝึกซ้อม ความมุ่งมั่น และการทำงานร่วมกันของทั้งครูและนักเรียนทุกคน คือรางวัลที่มีค่ายิ่งกว่า เป็นรากฐานที่จะนำพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จในอนาคต และเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นน้อง ที่กำลังจะตามรอยเท้าของพวกเขาต่อไปอีกด้วย

ข้อมูล/บทสัมภาษณ์: อาจารย์ชลวิทย์ บุญจันทร์ อาจารย์ประจำโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา (วาทยกรและผู้ฝึกสอน) / เด็กหญิงชนกภัท ปิติฐาโชติ นักเรียนโรงเรียนรสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา (เปอร์คัสชั่น)

เขียน/เรียบเรียง: บรรเจิด หงษ์จักร นักประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารองค์กร กองกลาง มหาวิทยาลัยพะเยา