Research Recap: เผยกลลวง Scammers ที่ไม่ใช่แค่เอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย แต่ยังทำให้เป็นบัญชีม้าแบบไม่รู้ตัว


Research Recap: เผยกลลวง Scammers ที่ไม่ใช่แค่เอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย แต่ยังทำให้เป็นบัญชีม้าแบบไม่รู้ตัว
    

Research Recap: เผยกลลวง Scammers ที่ไม่ใช่แค่เอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย แต่ยังทำให้เป็นบัญชีม้าแบบไม่รู้ตัว

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กทม. คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมวิชาการ “มาตรการรับมืออาชญากรรมออนไลน์” โดยมีการนำเสนอผลการวิจัยและข้อเสนอและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาร่วมเสนอแนะ ทีมนักวิจัยจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยาได้เข้าร่วมการนำเสนอผลการวิจัยที่ได้รับทุนจากโครงการ ในหัวข้อ “ปัจจัยด้านเนื้อหาและกลโกงที่ส่งผลต่อการตกเป็นผู้เสียหายและอาจนำไปสู่การเป็นผู้ต้องหา” โดยมี ผศ. กฤษฎา ใจแก้วทิ หัวหน้าโครงการวิจัยร่วมขึ้นเวทีอภิปรายร่วมกับนักวิจัยจากสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในหัวข้อ "ถอดรหัสวงจรบัญชีม้า : ความซับซ้อนของการกลายเป็นเหยื่อและผู้ต้องหา"

เพราะประเด็นเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์เป็นปัญหาสำคัญที่มีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก เราจึงนำสรุปสาระสำคัญของประเด็นวิจัยที่ทีมวิจัยจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยาได้นำเสนอบทเวทีประชุมวิชาการครั้งนี้มาเล่าต่อให้ฟังด้วย

สแกมเมอร์ใช้กลลวงรูปแบบผู้เสียหายถึงตกหลุมพราง

มิจฉาชีพใช้กลวิธีที่แยบยลในการชักนำผู้เสียหายจนกระทั่งตกหลุมพรางและตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยรูปแบบกลวิธีที่มิจฉาชีพนำมาใช้มีด้วยกัน 5 ประการ โดยอาจมีการใช้กลวิธีร่วมกันหลายรูปแบบ ในแต่ละช่วงจังหวะ และมีการปรับกลวิธีให้เหมาะสมกับผู้เสียหายแต่ละกลุ่มด้วย ดังนี้
1. การอ้างอำนาจรัฐ ธนาคาร หรือองค์กรกำกับ (Authority / Impersonation Pattern) เช่น อ้างตัวเป็นตำรวจ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม
2. ความเร่งด่วนและแรงกดดันด้านเวลา (Urgency / Time Pressure Pattern) เช่น
3. การใช้อารมณ์นำเหตุผล (Emotional Manipulation Pattern)
4. การสร้างหลักฐานเทียมเพื่อความน่าเชื่อถือ (Social Proof / Fake Legitimacy Pattern)
5. การปรับเนื้อหาให้เฉพาะตัวผู้เสียหาย (Personalisation Pattern)
เนื่องจากมิจฉาชีพมีการสร้างหลักฐานเทียมเพื่อความน่าเชื่อถือและมีการปรับเนื้อหาให้มีความน่าเชื่อถือและตรงกับความสนใจหรือนิสัยในภาพรวมของผู้เสียหายในแต่ละกลุ่มและครอบคลุมแทบทุกช่วงอายุและการศึกษา เมื่อใช้ร่วมกับการกล่าวอ้างตัวเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ ใช้การกดดันให้ต้องรีบตัดสินใจจนกระทั่งผู้เสียหายใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดผู้เสียหายหลายรายจึงไม่ทันได้ฉุกคิดและมารู้ตัวในภายหลักว่าถูกหลอก

ทำไมผู้เสียหายถึงยอมทำตามมิจฉาชีพ นอกจากใช้กลวิธีการหลอกลวงผู้เสียหาย มิจฉาชีพใช้ยังมีการใช้เทคนิคทางจิตวิทยาที่ใช้ในการรั้งผู้เสียหายให้อยู่ในความควบคุม ได้แก่
1. การโน้มน้าวเชิงบังคับจิตใจของผู้เสียหาย (Coercive Persuasion)
2. การทำให้สมองรับข้อมูลล้นเกินจนรับไม่ไหว (Cognitive Overload)
3. การทำให้เกิดภาวะเสมือนหลุดจากตัวเองหรือสูญเสียการควบคุมตัวเอง (Dissociation) เมื่อมีการควบคุมโดยเทคนิคดังกล่าวทั้งทางอารมณ์และการกระทำยอมอยู่ในสายตาของมิจฉาชีพ โดยข้อมูลการวิจัยที่มีการนำเสนอนั้นพบว่า มีผู้เสียหายบางรายตกอยู่ภายใต้การควบคุมของมิจฉาชีพนานถึง 72 ชั่วโมง และพบว่าหลังจากได้ประโยชน์จากผู้เสียหายแล้ว มิจฉาชีพยังมีการควบคุมผู้เสียหายต่ออีกระยะหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าการหลอกลวงของตนเองสำเร็จ ก่อนที่จะตัดการติดต่อกับผู้เสียหาย


"ม้าขาวบริสุทธิ์": เมื่อผู้เสียหายถูกทำให้กลายเป็นผู้ต้องหาในฐานะบัญชีม้า
จากการนำเสนองานวิจัย ในกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2568 พบว่าผู้เสียหายบางรายนอกจากถูกมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหลอกลวงว่าผู้เสียหายเป็นบัญชีม้าต้องมีการโอนเงินให้ตรวจสอบแล้ว ยังมีการใช้บัญชีของผู้เสียหายเป็นทางผ่านในการโอนเงินไปยังปลายทางต่างประเทศด้วย ทำให้บัญชีของผู้เสียหายกลายเป็น ‘บัญชีม้า’ ของมิจฉาชีพโดยที่ผู้เสียหายไม่รู้ตัว และมาทราบอีกครั้งเมื่อบัญชีของตนเองถูกระงับ
ผลกระทบจากการที่บัญชีของผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพใช้บัญชีเป็นบัญชีม้า

1. ผู้เสียหายตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา มีประวัติอาชญากรรม
2. ถูกระงับธุรกรรมหรืออายัดบัญชีทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินที่จำเป็นได้
3. ขาดการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงาน เพราะเป็นทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหา ทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องไปติดต่อที่ใด

ข้อเสนอแนะ
1. ภาคการเงินมีการลงทุนด้าน AI เพื่อช่วยในการตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัย รวมถึงการเพิ่มทักษะแก่พนักงานเพื่อสังเกตการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ
2. กำหนดวงเงินการโอนออกจากบัญชีโดยพิารณาจากการมีรายรับจริงริที่ตรวจสอบได้หรือจากฐานภาษี
3. การทำธุรกรรมทางการเงินของผู้เยาว์ในการโอนเงินไปยังต่างประเทศควรต้องให้ผู้ปกครองให้ความยินยอมหรือดำเนินการแทน
4. พิจารณาทบทวนหรือกำหนดมาตรการเปิดหรือปิดบัญชีออนไลน์ 5. พิจารณาทบทวนแนวทางการอายัดบัญชีของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาที่อาจเปิดให้สามารถใช้งานได้บางบัญชีเพื่อดำเนินชีวิตได้
6. จัดตั้งหน่วยงานหรือกำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ต้องหาที่เกิดจากการหลอก ใช้บัญชีในการโอนเงิน

ประเด็นที่สำคัญและเร่งด่วน คือการสร้างกลไกเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกใช้บัญชีเป็นบัญชีม้า หรือ “ม้าขาวบริสุทธิ์” ที่พิสูจน์เจตนาได้ว่าถูกหลอกสามารถเปิดบัญชีพื้นฐานเพื่อดำรงชีพและรับสวัสดิการรัฐได้โดยไม่ถูกแบล็คลิสต์ทั้งชีวิต ซึ่งจะเป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับกลุ่มเปราะบางที่กลายเป็นเหยื่อซ้ำซ้อนของกระบวนการนี้
หมายเหตุ: การนำเสนองานวิจัยในหัวข้อ“ปัจจัยด้านเนื้อหาและกลโกงที่ส่งผลต่อการตกเป็นผู้เสียหายและอาจนำไปสู่การเป็นผู้ต้องหา” เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการวิจัย “การศึกษาปัจจัยด้านเนื้อหาหรือกลโกงที่ส่งผลต่อการตกเป็นผู้เสียหายในอาชญากรรมออนไลน์” โดย ผศ. กฤษฎา ใจแก้วทิ หัวหน้าโครงการวิจัย และผู้วิจัยร่วม ได้แก่ อ. ปิยอร เปลี่ยนผดุง อ. พรณัชชา ทับพันบุบผา อ. พลอยขวัญ เหล่าอมต และ ผศ. ดร. ณัฐ สุขเวชชวรกิจ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ภายใต้ “โครงการศึกษาสถานการณ์ภัยคุกคามทางออนไลน์” ของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
อ่านสรุปการนำเสนองานวิจัยในหัวข้ออื่นๆ ในการประชุมวิชาการ “มาตรการรับมืออาชญากรรมออนไลน์” ได้ที่นี่: 1. สำนักข่าวชายขอบ, (2568). “เปิดงานวิจัย: รู้เท่าทันอาชญากรออนไลน์.” https://transbordernews.in.th/home/?p=44715&fbclid=IwY2xjawO4fFpleHRuA2FlbQIxMABicmlkETEwYmpNQ0M2MnFmZE41c1U5c3J0YwZhcHBfaWQQMjIyMDM5MTc4ODIwMDg5MgABHglHprIk0ISgCod6U05BlgAkJJLg3fFgiDTan6CV2dHAwhpYOsFLob1XrvJI_aem_aszKzlRKF198kTfRS3Lz6Q 2. Policy Watch, (2568). “รับมืออาชญากรรมออนไลน์ แค่กฎหมายยังไม่พอ.” https://policywatch.thaipbs.or.th/article/government-250?fbclid=IwY2xjawO4fFRleHRuA2FlbQIxMABicmlkETEwYmpNQ0M2MnFmZE41c1U5c3J0YwZhcHBfaWQQMjIyMDM5MTc4ODIwMDg5MgABHsS96WJHXNuCQEOtZlmwQAAJ3Xtg15EYLCPSQFJM15wi4x0cQvV-5bTnbAAJ_aem_CU2as0HLIu3pZggYubxSCQ




facebooktwitterline

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ภาพ :      
ข้อมูล/ข่าว :      
เพิ่มข่าวโดย :   krittabhorn.ju@up.ac.th   
26/12/2568 16:48 น. (20 ชั่วโมงที่แล้ว)

สถิติการอ่านข่าวนี้
วันนี้: 24 ครั้ง | เมื่อวาน: 1 ครั้ง | เดือนนี้: 25 ครั้ง | ปีนี้: 25 ครั้ง | รวม: 25 ครั้ง